Home » Posts tagged 'วัยเรียน'
Tag Archives: วัยเรียน
พัฒนาการทางสมองของเด็ก ที่สมองแต่ละช่วงแตกต่างกันอย่างไร
คุณรู้ไหมว่าช่วงอายุของคุณตอนนี้ ประสิทธิภาพของสมองในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ เป็นอย่างไร อะไรที่คุณทำได้ดี และอะไรที่ยังไม่ถึงวัย ขอแนะนำ พัฒนาการทางสมองของเด็ก ในแต่ละช่วงวัยเป็นอย่างไรกันบ้าง ถ้าอยากรู้ตามมาดูกันเลย

พัฒนาการทางสมองของเด็กวัยเรียน ที่เรียนรู้และเข้าใจภาษาได้เหมาะสมตามวัย
- พัฒนาการทางสมองของเด็กวัยเรียนอายุ 2 ขวบ – 7 ขวบ (อนุบาล ถึงประถม)
พัฒนาการทางสมองของเด็ก ช่วงเพิ่งเริ่มเรียนนี้ จะยังเป็นช่วงเริ่มต้น ไม่สามารถเรียนรู้เรื่องซับซ้อนได้ แต่ก็จะมีความพิเศษคือ เด็กวัยเริ่มเรียนจะมีความสามารถในการเรียนรู้ภาษาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ดังนั้นภาษาที่ 2 หรือที่ 3 หากให้เขาได้เรียนรู้ในช่วงนี้เลยก็จะทำให้เรียนได้ไว ไม่จำเป็นต้องท่องจำ และไม่เป็นการบังคับ

เพราะเด็กวัยเริ่มเรียนจะสามารถเข้าใจเรื่องธรรมชาติได้ดี เด็กวัยนี้จะเริ่มรู้เกี่ยวกับเหตุผลง่าย ๆ ที่ไม่ซับซ้อน และรับรู้เรื่องประสาทสัมผัสที่ดีมาก
- สมองของเด็กวัยเรียนอายุ 7 ขวบ – 11 ขวบ (ประถมต้น -ประถมปลาย)
พัฒนาการทางสมองของเด็ก วัย 7-11 ขวบ เป็นช่วงที่สมองมีการพัฒนามาก สมองจึงสามารถคิดหาหนทางแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ดี สามารถมีความคิดที่แบบรวบยอดได้ นอกจากนี้สมองก็ยังมีความสามารถในด้านต่าง ๆ เช่น รู้

โดยเด็กจะมีสมองที่ดี จึงสามารถมองได้หลายแง่หลายมุม หรือมองอย่างมีมิติ เรื่องเหตุผลเป็นสิ่งที่เด็กวัยนี้เข้าใจมากขึ้น และเด็กก็จะชอบเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงมากกว่า
เพราะเด็กจะวางแผนทำกิจกรรมเบื้องต้นต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง และสามารถเขียนโครงงานสั้น ๆ ได้ และสิ่งสำคัญคือ สมองของเด็กวัยประถมนี้จะมีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นตัวของตัวเองแล้ว
- สมองของเด็กวัยเรียนอายุ 11 ขวบ – 13 ปี (ประถมปลาย – มัธยมต้น)
พัฒนาการทางสมองของเด็ก ในช่วงเด็กวัยรุ่นจะมีพัฒนาการทางสมองแบบผู้ใหญ่ เช่น เด็กวัยรุ่นจะคิดเรื่องที่ค่อนข้างยาก และซับซ้อนได้ โดยมีวิจารณญาณในการตัดสินใจที่ดีขึ้น รู้จักการคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา และไตร่ตรองได้ดี สามารถเข้าใจเรื่องของเหตุผลได้ดี และยังรู้จักอธิบายเป็น

- สมองของเด็กวัยเรียนอายุ 13 ปี- 18 ปี “วัยรุ่น” (มัธยมต้น -มัธยมปลาย)
พัฒนาการทางสมองของเด็ก โดยตอนนี้เด็กจะดูใกล้เคียงผู้ใหญ่มาก เพราะสมองของเด็กพัฒนาเต็มที่ แต่ถ้าปล่อยให้เลยช่วงอายุ 13 ปีไปแล้ว การเรียนภาษาที่ 2 จะทำได้ยากขึ้น จึงทำให้มีพัฒนาการทางสมอง เช่น เด็กมัธยมจะเรียนรู้ได้ดีเหมือนผู้ใหญ่เด็กจะมีความสามารถในการอธิบาย หรือสรุปความได้ดี เข้าใจเรื่องเหตุผลได้ดีมาก และมีการคิดที่ซับซ้อน หรือวางแผนได้ดี

- สมองของเด็กวัยเรียนอายุ 18 ปี – 35 ปี “วัยผู้ใหญ่” (มัธยมปลาย อุดมศึกษา วัยเริ่มทำงานเป็นต้นไป)

พัฒนาการทางสมองของเด็ก ที่กำลังเริ่มเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ จะทำให้เขามีสมองที่แตกต่างจากเด็กอย่างเห็นได้ชัด เช่น มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ แยกแยะ แก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถวางแผนต่าง ๆ ได้ดี โดยเฉพาะเรื่องที่มีความซับซ้อน คำว่า “มีเล่ห์เหลี่ยม” เป็นสิ่งที่เด็กวัยนี้สามารถทำได้ดี
ติดตามข่าวสาร ข่าวการศึกษาไทย ที่เราได้นำมาให้คุณถึงที่ในเว็บไซต์นี้
- การปลูกจิตสำนึกในเด็ก รากฐานสำคัญในวัยเด็ก
- เคล็ดลับการเรียนเก่ง ขั้นเทพ ทำได้ทุกคน และเห็นผลทันตา!!
- เทคนิคช่วยจำ จะช่วยทำให้อ่านหนังสือแล้วจำได้แม่นยำ ตอบได้ฉลุย
- แนวโน้มในเรื่องของการศึกษา คิดอย่างไรกับ การศึกษาของไทยใน ปัจจุบัน
เว็บไซต์รวบรวมข่าวสารการศึกษาที่ยังเป็นปัญหาในสังคม เพื่อให้เราได้รู้เท่าทันและแก้ไขร่วมกัน เพราะสังคมจะเจริญเติบโตได้ขึ้นอยู่กับความเจริญก้าวหน้าของการศึกษา และถ้าคุณอยากผ่อนคลายสมองเรามีเว็บไซต์เดิมพันสนุกๆ sharkslot ที่มีบริการอย่างครบครันตลอด 24 ชั่วโมง
การตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อมในวัยเรียน จริงหรือไม่? ท้องได้ ก็เลี้ยงได้ ความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น
ประเทศไทยนับได้ว่ามีสถิติการตั้งครรภ์ไม่พร้อมสูงเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย อีกทั้งเมื่อไม่นานมานี้ได้มีวลีหนึ่ง จากเด็กวัยเรียนที่มี การตั้งครรภ์ ก่อนวัยอันควร ด้วยแคปชั่นว่า “ท้องได้ ก็เลี้ยงได้ ”
ซึ่งแม้จะเป็นวลีที่ดูเหมือนเป็นการแสดงความรับผิดชอบที่เกิดขึ้น แต่หารู้ไม่ว่าการจะเลี้ยงเด็กสักหนึ่งคนเป็นเรื่องไม่ง่ายเลย ฉะนั้นในวันนี้เราจะมาดูว่าหากมี การตั้งครรภ์ ที่ไม่พร้อมแล้วเลือกจะเก็บเด็กเอาไว้ น้องๆจะพบกับปัญหาอะไรตามมาบ้างหลังจากนั้นมาดูกันเลย

การตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อมจะเกิดปัญหาตามมาอีกมากมาย

การตั้งครรภ์ ที่ไม่พร้อมจะเกิดปัญหาข้อแรก คือ เสียโอกาสการเรียน เพราะเวลาตั้งครรภ์ 9 เดือน รวมพักฟื้นหลังคลอด
ยังไม่รวมถึงการเลี้ยงดูทารกที่ต้องใช้เวลาแรมปี ฉะนั้นหากน้องๆ ตั้งครรภ์เมื่ออยู่ในวัยมัธยมก็อาจต้องเปลี่ยนแผนไปเรียน กศน.แทน หรือหากอยู่ในชั้นมหาวิทยาลัย ก็ยังสามารถกลับมาเรียนได้แต่อาจต้องบริการจัดการเวลาให้ดี

การตั้งครรภ์ ที่ไม่พร้อมจะเกิดปัญหาข้อที่สอง คือ มีค่าใช้จ่าย เพราะการจะเลี้ยงเด็กสักหนึ่งคนให้เติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ ต้องหมดค่าใช้จ่ายมากกว่าล้านบาท ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อตั้งครรภ์ไม่พร้อม
ในขณะที่ตัวน้องๆ เองยังไม่สามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ การจะหาทุนทรัพย์มาเลี้ยงลูกย่อมยากลำบาก ซึ่งหากทางบ้านไม่มีฐานะก็ยิ่งเพิ่มอุปสรรคเป็นสองเท่าตัว น้องๆอาจจะต้องทำงานอย่างหนัก จนถึงขั้นสละการเรียนไปก็เป็นได้

การตั้งครรภ์ ที่ไม่พร้อมจะเกิดปัญหาข้อที่สาม คือ เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เนื่องจากรักในวัยเรียนนั้นเป็นความรักที่เกิดจากความรู้สึกเกือบ 80-90% แต่ความรักในโลกแห่งความเป็นจริงมีองค์ประกอบมากกว่านั้น ทำให้หลายคู่เมื่อมีลูกและต้องมาใช้ชีวิตร่วมกัน อีกทั้งต้องแบกความรับผิดชอบที่เกินวัย ทำให้หลายคู่ต้องแยกทาง และผู้หญิงมักจะต้องเป็นฝ่ายเลี้ยงลูก ซึ่งจะยิ่งเพื่อเพิ่มความรับผิดชอบมากขึ้นไปอีก
จากปัญหาที่กล่าวมา คือ ปัญหาจาก การตั้งครรภ์ ที่ไม่พร้อมในวัยเรียนนี้จึงอยากให้น้องๆเห็นว่าความสนุกเพียงชั่วคราวในเวลาไม่กี่ชั่วโมงจะคุ้มหรือไม่หากต้องแลกกับความลำบากอีก 20 ปีกว่าปี และคิดว่าคุ้มหรือไม่หากเราสร้างทรัพยากรมนุษย์ขึ้นมาแต่เป็นภาระของสังคม ฉะนั้นทุกสิ่งเหล่านี้สามารถยับยั้งได้ทั้งหมดด้วยการสวมถุงยางอนามัยป้องกัน
ติดตามข่าวสาร ข้อมูลการศึกษา ได้ที่เว็บไซต์นี้
เทคนิคการออมเงิน ฉบับนักศึกษาที่ใช้ได้จริง
เป็นวัยรุ่นมันเหนื่อย มันเป็นวัยที่ต้องเหนื่อย !! หนึ่งในบทเพลงที่เรียกได้ว่าเป็นตำนานของพี่ ๆ วง Paradox ไม่ได้กล่าวเกินจริงเลยแม้แต่น้อย เพราะเป็นวัยรุ่นนั้นมันเหนื่อยจริง ๆ ไหนจะต้องเรียนให้ดี กิจกรรมต้องเด่น อีกทั้งยังต้องคอยจัดสรร และออมเงินไว้ใช้จ่ายในแต่ละเดือนอีก
อีกทั้งไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็ยังเจอแต่ทฤษฎีวางแผนทางการเงิน รวมไปถึงการออมเงิน ที่ดูยากและไม่สามารถใช้ได้จริง เพราะไม่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ชาวนักศึกษาจะต้องเจอ วันนี้พี่จึงได้รวบรวม 4 เทคนิคการออมเงิน ที่เป็นการเก็บเงินได้เป็นพันถึงหมี่นแบบใช้ได้จริง ฉบับนักศึกษามาให้กัน !!

เทคนิคการออมเงิน ให้ได้ผลดีที่สุด

เทคนิคการออมเงิน เทคนิคแรกที่อยากแนะนำ คือ แบ่งค่าใช้จ่ายแต่ละวัน เพราะเรื่องเงินทองต้องวางแผน ไม่ว่าจะอยู่ในวัยเรียน หรือวัยทำงานก็ตาม นั้นจึงทำให้จุดเริ่มต้นของการออมเงินที่ดีคือการแบ่งค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน
ลองลิสต์ออกมาดูว่าในหนึ่งวันน้อง ๆ ต้องใช้เงินไปกับอะไรบ้าง ค่ากิน ค่าเดินทาง ค่าจิปาถะ และลองนำเงินที่ได้รับในแต่ละเดือนไปแตกเป็นแบงก์ย่อย แบ่งใส่ซอง เพื่อในตอนเช้าจะได้หยิบจัดได้ง่าย ไม่เสียเวลาเตรียมตัวซ้ำ

เทคนิคการออมเงิน เทคนิคที่สองที่อยากแนะนำ คือ จำกัดจำนวนมื้อ / ไม่กินจุกจิก วัยกำลังโตพี่เข้าใจ แต่กินจุกจิกทั้งวันพี่ว่าก็ไม่ไหวนะ ค่าใช้จ่ายที่สำคัญอีกตัวหนึ่งของนักศึกษาคือ ค่าของกิน ดังนั้นหากน้อง ๆ อยากออมเงินลองจำกัดจำนวนมื้อที่กินต่อวัน และไม่กินจุกจิกดู เช่น จะกินแค่ 4 มื้อต่อวัน
เพราะกำลังเล่นเวทเพื่อสร้าง กล้ามเนื้อ อยู่ และจะไม่กินจุกจิกระหว่างวันเด็ดขาด วิธีนี้นอกจากจะได้ออมเงินเพิ่มขึ้นแล้วยังได้ของแถมคือสุขภาพดี หุ่นที่ฟิตเฟิร์มขึ้นมาอีกด้วย

เทคนิคการออมเงิน เทคนิคที่สามที่อยากแนะนำ คือ หารูมเมทแชร์ค่าห้อง ค่าใช้จ่ายที่สำคัญอีกส่วนหนึ่งคือ ค่าหอพักในกรณีที่เป็นนักศึกษาที่บ้านค่อนข้างไกลจากมหาวิทยาลัยและจำเป็นจะต้องอยู่หอ ซึ่งวิธีง่าย ๆ ที่จะทำให้การออมเงินของเพิ่มขึ้นคือลองหารูมเมทเพื่อแชร์ค่าห้องดูสิ
นอกจากจะได้ประหยัดจนมีเงินออมเพิ่มแล้ว ยังมีเพื่อนสนิทที่จะคอยช่วยเราในทุกเรื่องก็ได้นะ แต่ต้องขอบอกว่าควรแสกนถึงความเข้ากันได้ให้ดีล่ะ ก่อนที่จะตกลงเป็นรูมเมทกัน

เทคนิคการออมเงิน เทคนิคที่สี่ที่อยากแนะนำ คือ ลดการเข้าสังคมด้วยปาร์ตี้ พี่เข้าใจว่าเป็นวัยรุ่นมันเหนื่อย มันเลยต้องระบายออกด้วยการไปปาร์ตี้บ้าง แต่ถ้าคิดดูให้ดูการลด ละ เลิก การปาร์ตี้อาจทำให้การออมเงินของน้อง ๆ เพิ่มขึ้นอย่างมากเลยนะ แอบกระซิบว่าน้อง ๆ บางคนอาจมีเงินออมเพิ่มมากขึ้นหลายพันจนถึงหมื่นเลยเชียว จากแค่ลดการปาร์ตี้ลงบ้าง
ติดตามข่าวสาร ข้อมูลการศึกษา ได้ที่เว็บไซต์นี้
แนะนำข่าวการศึกษาไทย วิธีค้นหาพรสวรรค์ของเด็ก การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ