ปริศนา “โลกคู่ขนาน” การศึกษาที่ถกเถียงกันมากในชีวิตจริง
หลายคนคงได้ติดตามวรรณกรรม นวนิยายแนวต่างๆ ได้ดูหนัง ซีรีส์ หรือแอนิเมชันเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับ โลกคู่ขนาน บ้างแล้ว มีทั้งจบแบบมันส์บ้าง จบหักมุมบ้าง หรือจบแบบสวยงามตามท้องเรื่อง
แต่ก็มีไม่น้อยที่หลายคนเริ่มสนใจที่จะศึกษาค้นคว้าเรื่อง โลกคู่ขนาน กันบ้างแล้ว ทั้งศึกษาตามทฤษฎีต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ข่าวแปลกๆ ไม่ว่าจะเรื่องย้อนเวลาบ้าง เชื่อเรื่องมิติที่ทำให้เกิดโลกคู่ขนานบ้าง หรือบุคคลที่มาจากอนาคตมาเตือน รวมถึงยังมีข้อถกเถียงกันว่าโลกคู่ขนานมีอยู่จริงหรือไม่ แล้วเราจะไขปริศนาเรื่องราวนี้อย่างไร
ปัจจัยใดบ้างที่เกี่ยวข้องกับ โลกคู่ขนาน
ถ้าไม่มองว่า โลกคู่ขนาน คือมิติลี้ลับนั้น ก็คงไม่พ้นด้านมิติทางฟิสิกส์ ปัจจัยที่ทำให้มีหลายคนสนใจศึกษาเรื่องของ โลกคู่ขนาน เพิ่มขึ้น ต้องการที่มาอ้างอิงชัดเจน ในบทความนี้จะแบ่งเป็นข้อๆ ว่าทำไมทฤษฎีนี้มีความสอดคล้อง และทำไมถึงเอามาศึกษาเรื่อง โลกคู่ขนาน ที่ยังเป็นข้อสงสัย
- กลศาสตร์ควอนตัม : ทฤษฎีนี้มาจากการศึกษาเรื่องเอกภพ ซึ่งมีจำนวนมากมายไม่สิ้นสุด เอาง่ายๆ เป็นจำนวนอนันต์ มีมากมายที่เกิดขึ้นและดับไป เรื่อง โลกคู่ขนาน เคยมีนักวิทยาศาสตร์ค้นคว้า ศึกษาตรงนี้มาบ้างแล้วพบว่า การวัดด้วยกลศาสตร์ควอนตัมเป็นเรื่องที่มีโอกาสเป็นไปได้มากที่จะเกิดเหตุการณ์ในตรงกันข้าม เช่น คุณอาจจะมีตัวคุณที่อยู่ในอนาคต เนื่องด้วยกาลเวลาระหว่างเอกภพและปฏิเอกภพ แต่เราไม่สามารถเปลี่ยนอนาคตได้ แม้ว่าคุณอยากกลับไปแก้ไขก็ตาม ในส่วนของกลศาสตร์ควอนตัมยังสัมพันธ์กับอะตอม ประจุไฟฟ้าที่นำมาใช้ เช่น ทฤษฎีเลขอะโวกาโดร ซึ่งนำมาใช้ในการสอนวิชาเคมี
- ทฤษฎีสตริง : ถ้าศึกษาดีๆ จะรู้ว่าทฤษฎีนี้มาเพื่อหักล้างกลศาสตร์ควอนตัม จะอธิบายการศึกษาด้าน โลกคู่ขนาน ไปได้ว่า เราอาจมีอนุภาคเป็นเส้นมิติบางๆ กั้นอยู่ ที่เราไม่สามารถสังเกตได้ว่ามิตินั้นมีอยู่จริง เพราะมันจะเกี่ยวข้องกับการรวมแรงธรรมชาติ เช่น แรงโน้มถ่วง แรงอันตรกิริยา แรงแม่เหล็กไฟฟ้า ที่เป็นปัจจัยการเกิด โลกคู่ขนาน ตามที่มีรายการปริศนาหลายๆ รายการได้ทำไว้ เช่น ทฤษฎีบิ๊กแบง แนวคิดแบบบับเบิล และเคยมีการสำรวจว่าโลกคู่ขนานเป็นเรื่องจริง เช่น ขั้วบวกขั้วลบที่สลับขั้วกัน ซ้ายขวาสลับด้านกัน
การเกิด โลกคู่ขนาน นั้นมีโอกาสที่จะเป็น แต่การศึกษายังไม่สามารถสรุปได้ว่ามีจริงแบบเป็นรูปธรรมหรือไม่ ทั้งนี้คุณต้องแยกแยะระหว่างจินตนาการ ความขนหัวลุกและความเพ้อฝันส่วนตัวออกจากกัน ซึ่งยังไม่มีข้อสรุปของการศึกษาเหล่านี้ชัดเจน จึงเป็นเรื่องที่ยังต้องติดตามกันต่อไป
ติดตามข่าวสาร ข่าวการศึกษา ที่เราได้นำมาให้คุณรู้เรื่องการศึกษาอย่างรอบด้าน
4 ประเทศใน การเรียนแพทย์ต่างประเทศ แบบประหยัดงบ
การเรียนแพทย์ ยังคงเป็นความฝันที่อยู่บนความเสี่ยงในปัจจุบันสูงมาก จึงต้องมีการรับมือทั้งสภาพร่างกายและจิตใจพอสมควรสำหรับใครที่อยากเรียนต่อด้านสายนี้
เนื่องด้วยต้องรับมือกับการทำงานไปในตัว บทความนี้ ขอแนะนำ การเรียนแพทย์ต่างประเทศ คนที่จะเรียนแพทย์ ต้องรับมือกับชีวิตความเป็นความตายของผู้ป่วย เวลาส่วนตัวไม่เพียงพอ หรือเวลาทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับเวรอีก การเป็นแพทย์ไม่ใช่แค่ต้องเรียนเก่งเท่านั้น แต่คุณต้องอดทนกับสิ่งที่หนักหนาสาหัสให้ได้
การเรียนแพทย์ต่างประเทศ มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงได้รับรองจากแพทยสภา
หากใครไม่ติดแพทย์ที่ไทยเลย ขอแนะนำ การเรียนแพทย์ต่างประเทศ ไม่ว่าจะรับตรงปกติ รับตรงแพทย์ หรือที่มหาวิทยาลัยจัดสอบเอง ยังสามารถเรียนแพทย์ต่างประเทศได้ ซึ่งจะมาแนะนำการเรียนแพทย์ในต่างประเทศดังนี้
การเรียนแพทย์ต่างประเทศ ประเทศแรกที่อยากแนะนำ ก็คือ Philippines เป็นประเทศหนึ่งในอาเซียนที่ใกล้ไทยมากๆ หากจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศจริงๆ และยิ่งเป็นสายการแพทย์และสุขภาพด้วย ฟิลิปปินส์จะมีชื่อเสียงตรงนี้อย่างมากในเรื่องการเรียนภาษาอังกฤษราคาประหยัด
การเรียนแพทย์ที่นี่จะอิงจากอเมริกาตรงที่คุณต้องจบปริญญาตรีสาขาใดสาขาหนึ่งมาก่อน แล้วเรียน 4 ปี มหาวิทยาลัยแพทย์ที่แนะนำ อยากให้มาเรียนที่ Our Lady Of Fatima University ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยได้รับรองจากแพทยสภาด้วยนะขอบอก
การเรียนแพทย์ต่างประเทศ ประเทศที่สองที่อยากแนะนำ ก็คือ China อยากได้เคสผู้ป่วยที่หลากหลาย หรืออยากพัฒนาความเป็นแพทย์ แนะนำว่าให้ไปเรียนที่จีนเลย ประเทศจีนก็เป็นประเทศที่มีชื่อเสียงด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไม่ได้มีแค่ภาษาและวัฒนธรรมเท่านั้น แต่จีนเป็นประเทศที่คนไทยนิยมไปเรียน
ซึ่งใครจบมัธยมศึกษาตอนปลาย ไปสมัครเรียนต่อที่จีน แล้วสอบเรียนต่อโดยตรงได้เลย เป็นการเรียนแบบ 6 ปีเหมือนแพทย์ในไทย แต่ทั้งนี้ต้องมีพื้นฐานภาษาจีน เนื่องด้วยคนจีนจะพูดอังกฤษช้ากว่าสำเนียงคนไทยมาก มหาวิทยาลัยแนะนำ Peking University Health Science Center, Wenzhou Medical University
การเรียนแพทย์ต่างประเทศ ประเทศที่สามที่อยากแนะนำ ก็คือ Malaysia ประเทศที่เป็นประเทศเพื่อนบ้านทางตอนใต้ ให้นึกถึงมาเลเซียเอาไว้ก่อน มาเลเซียเป็นประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อกลางเหมือนฟิลิปปินส์ แต่ความเจริญของมาเลเซียดีกว่า การป้องกันอาชญากรรมที่นี่จะดีกว่าที่ฟิลิปปินส์ค่อนข้างมาก สามารถมาเรียนด้วยความปลอดภัย จบออกมาได้รับการรับรองจากแพทยสภาไทย
ซึ่งการแพทย์จะเรียน 5 ปี แต่ต้องจบมัธยมศึกษาตอนปลายก่อนนะถึงจะสมัครได้ มหาวิทยาลัยที่แนะนำคือ Mahsa University ที่มหาวิทยาลัยนี้เขาจะปรับหลักสูตรอยู่เสมอเพื่อพัฒนานักศึกษาแพทย์ให้มีความเชี่ยวชาญมากขึ้น
การเรียนแพทย์ต่างประเทศ ประเทศที่สี่ที่อยากแนะนำ ก็คือ Poland หากใครเน้นความสวยงาม เน้นความเป็นอินเตอร์ แนะนำมาเรียนประเทศโปแลนด์เลย ประเทศโปแลนด์มีชื่อเสียงในเรื่องทางการแพทย์อย่างมาก
มีทั้งหลักสูตร 6 ปีสำหรับจบมัธยมศึกษาตอนปลาย และหลักสูตร 4 ปีสำหรับจบปริญญาตรีแล้ว การเรียนจะเรียนแบบอเมริกา ใครจบจากที่นี่สามารถไปทำงานที่อเมริกาได้เลยสำหรับใครที่เป็น American Dreams มหาวิทยาลัยที่แนะนำ เช่น Lublin, Warsaw และ Poznan เห็นว่าได้รับรองแพทยสภาอยู่นะเออ
ติดตามข่าวสาร เว็บไซต์การศึกษา ที่เราได้นำมาให้คุณรู้เรื่องการศึกษาอย่างรอบด้าน
พฤติกรรมที่พ่อแม่ไม่ควรทำ ถ้าไม่อยากให้ลูกโดนด่าว่า “พ่อแม่ไม่สั่งสอน”
การที่เราจะเลี้ยงใครสักคนให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ การเลี้ยงคนคือสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับคนเป็นพ่อแม่เสมอ เพราะทุกช่วงการเติบโต ทุกพฤติกรรมที่หล่อหลอมให้เป็นเขา จึงเป็นสิ่งที่ต้องระวังมากในยุคนี้ เนื่องด้วยเด็กเป็นกลุ่มที่ต้องให้คำแนะนำ การเลี้ยงดูที่เหมาะสมพอที่จะเติบโตอย่างสดใส ไม่มีพฤติกรรมที่น่ารังเกียจในอนาคต
เคยได้ยินไหมกับคำว่า “ลูกคุณไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน” “ลูกฉันเป็นคนดี” แน่นอนว่าถ้าใครได้ยินเรื่องเหล่านี้ ย่อมรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ บางคนอาจจะไม่โอเคในสิ่งที่เห็นพฤติกรรมเหล่านั้นทั้งในสายตาเราและในสายตาคนอื่น จึงเป็นเรื่องที่พ่อแม่ควรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากๆ โดย พฤติกรรมที่พ่อแม่ไม่ควรทำ เพื่อป้องกันไม่ให้พฤติกรรมนี้เกิดจากลูกตัวเองหรือเกิดจากลูกของใครกระทำสิ่งเหล่านี้เข้า กลายเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่เจตนา
พฤติกรรมที่พ่อแม่ไม่ควรทำ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อจิตใจลูก
บทความนี้จะเป็นบทความนำเสนอ พฤติกรรมที่พ่อแม่ไม่ควรทำ เลย ถ้าไม่อยากให้ลูกคุณโดนด่าว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอน เพราะเมื่อเขาเติบโตขึ้น สิ่งที่ห้ามทำเลย ไม่อย่างนั้นจะเป็นพ่อแม่รังแกฉันไปโดยปริยาย จะมาเตือนตามพฤติกรรมดังนี้
พฤติกรรมที่พ่อแม่ไม่ควรทำ พฤติกรรมแรกที่อยากแนะนำ ก็คือ เอาลูกไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ข้อนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรแสดงพฤติกรรมให้คนอื่นเห็น ไม่ว่าจะต่อหน้าลูกหรือต่อหน้าใครๆ ซึ่งจะหล่อหลอมพฤติกรรมในทางด้านลบ
หากเขาโตขึ้นจะกลายเป็นคนเก็บกด มีโอกาสแสดงพฤติกรรมต่อต้านสังคม (Psychopaths) มากกว่าปกติ ขนาดฉันยังโดนไปเทียบกับคนอื่น และไม่เห็นข้อดีในตัวฉันจริงๆ เลย ก็เลยทำประชดซะเลยง่ายกว่า
พฤติกรรมที่พ่อแม่ไม่ควรทำ พฤติกรรมที่สองที่อยากแนะนำ ก็คือ ไม่ตักเตือนเมื่อลูกทำผิด ไม่ว่าพ่อแม่จะเลี้ยงลูกแบบตามใจ ให้ท้ายลูกจนไม่รู้ว่านี่คือถูกหรือผิด หรือปล่อยให้เขาเติบโตด้วยความคิดที่บิดเบี้ยว
เมื่อเขาเติบโตขึ้นเขาจะมีพฤติกรรมระรานคนอื่น ไม่สนใจว่าคนอื่นจะรู้สึกยังไง เติบโตแบบเอาแต่ใจ เห็นแก่ใครไม่เป็น นิสัยเหล่านี้จะเป็นพฤติกรรมไม่ดีเมื่อลูกมีความรัก อาจจะเป็นคนที่น่าเบื่อ ความรักไม่สมหวังตามมา
พฤติกรรมที่พ่อแม่ไม่ควรทำ พฤติกรรมที่สามที่อยากแนะนำ ก็คือ ใช้ความรุนแรงทั้งกาย วาจา ใจ ขึ้นชื่อว่าใช้พฤติกรรมรุนแรง ไม่ใช่แค่รุนแรงต่อร่างกายเท่านั้น แต่การที่ทำให้เจ็บปวดต่อจิตใจ ไม่ว่าพ่อแม่จะเจตนาหรือไม่
รวมทั้งเติบโตมาในครอบครัวที่ใช้ความรุนแรง มีโอกาสทำให้เกิดจิตเภทในใจลูกสูงมาก สิ่งที่ร้ายแรงตามมาคือมีพฤติกรรมไม่ดีใส่คนอื่นเนื่องจากรับผลกระทบจากพ่อแม่เต็มๆ
ติดตามข่าวสาร ข่าวการศึกษา ที่เราได้นำมาให้คุณรู้เรื่องการศึกษาอย่างรอบด้าน
“การระลึกชาติ” การศึกษาที่น่าถกเถียงกัน…มีจริงอยู่ไหมในสังคมไทยปัจจุบัน
หากได้ดูละคร ภาพยนตร์ หรือซีรีส์เรื่องหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการกลับชาติมาเกิดใหม่ การระลึกชาติว่าเป็นใครมาจากไหน รวมทั้งนำความเชื่อของ การระลึกชาติ เข้ามาใช้ จึงเป็นข้อถกเถียงมากพอสมควร ทั้งการยืนยันข้อมูลที่น่าเชื่อถือว่าจริงเท็จประการใด มีความเป็นข้อเท็จจริงมากแค่ไหน
ซึ่ง การระลึกชาติ ยังเป็นประเด็นที่น่าสนใจในการศึกษายุคปัจจุบันมากขึ้น ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่จะมีความแตกต่างกันทางยุคสมัย ความเชื่อของศาสนาที่นับถือ การให้เหตุผลทางจิตวิทยา และความมีน้ำหนักของข้อมูลที่น่าเชื่อถือตามมา
การระลึกชาติ ที่มีการศึกษาหาข้อเท็จจริงอย่างจริงจัง
การระลึกชาติ ไม่ใช่แค่กรณีในประเทศไทยที่บางคนรู้ถึงอดีตของตนเองว่าเป็นใคร ในต่างประเทศก็ยังมีการศึกษาเรื่องนี้จริงๆ จังๆ ถึงเรื่องเหตุต้น และผลที่เกิดขึ้นถ้าหากมนุษย์ระลึกชาติได้อยู่ ซึ่งต้องพูดตามตรงว่า การระลึกชาติมีจริงในสังคมไทย แต่จะหาข้อเท็จจริงยังไงก็ไม่สามารถสรุปได้ว่าเพราะเหตุใด
การศึกษา การระลึกชาติ ตามทางวิทยาศาสตร์ จากที่มีการศึกษานั้นจะอาศัยทางวิทยาศาสตร์บางประการแทน บางเรื่องอาจศึกษาเรื่องทางการแพทย์ในเรื่องการเจ็บป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุเข้ามาเกี่ยว เนื่องด้วยบางเรื่องอธิบายได้ด้วยปรัชญาทางศาสนา บางเรื่องก็สามารถอธิบายในช่วงเวลาการเกิด จะนิยามได้ดังนี้
- อาการ Dejavu มันเป็นอาการของคนที่มีความรู้สึกของชั่ววูบว่าเคยเกิดขึ้นแบบนี้มาก่อน ซึ่งเป็นทั้งเคยรู้สึกมาก่อนด้วยจิตใต้สำนึกตั้งแต่เดิมก็ได้ ไม่เคยคุ้นเคยแต่รู้สึกก็ได้ ซึ่งเป็นการนำทฤษฎีเดจาวูนี้นำมาใช้ในการศึกษาเรื่อง การระลึกชาติ ของมนุษย์ด้วย การให้น้ำหนักความแม่นยำยังมีน้อย เพราะมันเป็นการสื่อเรื่องความรู้สึกเฉพาะบุคคลมากกว่าที่จะเป็นข้อมูลเชิงกว้าง
- การบริหารจิต เช่น การนั่งสมาธิในวิถีพุทธ การรับศีลล้างบาปตามความเชื่อคริสต์ และการละหมาดตามความเชื่อของศาสนาอิสลาม ก็ยังมีงานวิจัยที่ศึกษาเรื่องนี้มาบ้าง เพราะมีผลต่อทางด้านจิตวิทยาเมื่ออยู่ในสภาวะจิตใจสงบ ไม่ฟุ้งซ่าน จะเกิดความรู้สึกบางอย่างทางจิตใจที่เกิดขึ้นเฉพาะตัว บางกรณีอาจจะมีเรื่องอุปทานหมู่เข้ามาเกี่ยวด้วย
- ความรู้สึกแปลกโดยกำเนิด ผู้ที่ระลึกชาติบางรายอาจจะมีอาการเจ็บป่วยที่ไม่สามารถวินิจฉัยแน่ชัดในทางการแพทย์ว่าสาเหตุใด ยากต่อการศึกษาค้นคว้าข้อมูล เช่น เจ็บตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย การมีแผลเป็นหรือปานตามร่างกาย ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ว่าเป็นใคร มาจากไหนตามความรู้สึกนึกคิดของผู้ระลึกชาติ หรือการเกิดสภาวะทางจิตวิทยา เช่น กลัวความมืด กลัวฟ้าร้อง หรือมีอาการโคลิดในเด็ก
ติดตามข่าวสาร เว็บไซต์การศึกษา ที่เราได้นำมาให้คุณรู้เรื่องการศึกษาอย่างรอบด้าน
จะเกิดอะไรขึ้น…เมื่อ การอบรมความรู้ มาใช้ในเทคโนโลยีโลกออนไลน์
วิวัฒนาการด้านปัญญาประดิษฐ์กำลังจะพัฒนาแทนที่มนุษย์ในศักราชนี้ และเทคโนโลยีมีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของมนุษย์อย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นในสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีนักในเรื่องของ COVID-19 ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันต่อมนุษย์กันไปทั่วโลก
จึงได้มีการนำการเรียนในห้องเรียนออนไลน์ การอบรมความรู้ อบรมด้านวิชาชีพ หรือแม้กระทั่งการเทรนนิ่งยังนำเทคโนโลยีเพื่อลดภาระบางส่วนให้กับมนุษย์ และกระจายข้อมูลต่างๆ ได้อย่างทั่วถึง
การอบรมความรู้ ที่นำเทคโนโลยีมาช่วยอำนวยความสะดวก
การอบรมความรู้ แม้ว่าจะเหมือนเป็นเรื่องที่ดีถ้าการอบรมเหล่านั้นเป็นการลดต้นทุนค่าใช้จ่าย แต่ใครจะรู้ว่ามันเป็นการนำนวัตกรรมที่คาดไม่ถึงของมนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งจะอธิบายว่าทำไมการนำการเทคโนโลยีมาใช้ใน การอบรมความรู้ จึงมีความเสี่ยงบางประการ จะอธิบายเป็นข้อๆ ดังนี้
- ความเสี่ยงด้านการจัดการธุรกรรมทางการเงิน เนื่องด้วย การอบรมความรู้ บางสาขา มีการนำเทคโนโลยีทางเครือข่าย จะมีการเก็บค่าธรรมเนียมในการอบรมเข้ามาด้วย หากเป็นการอบรมในมูลค่าสูงๆ จะต้องศึกษาข้อมูลการอบรม ติดต่อสอบถามรายละเอียดก่อนชำระเงินทุกครั้ง เพื่อป้องกันปัญหาระบบธุรกรรมมีปัญหา ซึ่งจะมีปัญหาเหล่านี้บ่อยมาก เช่น โอนแล้วแต่เงินไม่เข้าปลายทาง การชำระเงินตัดยอดมีปัญหา หรือ Banking App ปิดปรับปรุงระบบ
- ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI แน่นอนว่าเรื่องของเทคโนโลยีจะช่วยอำนวยความสะดวกสบายในการจัดการ แม้กระทั่งการจัดการอบรม สัมมนา หรือสื่อการเรียนการสอนจะสอนให้เน้นในด้านปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลง หรือที่เป็นประโยชน์มากกว่าที่จะเป็นผลเสียในเรื่องของ AI แต่ยังไม่มีการสอนในเรื่องผลเสียในเรื่องของ AI เพื่อทำความเข้าใจเรื่องเหล่านั้นในอนาคต
- Online Marketing จะขยายตัวง่ายขึ้น เนื่องจากการอบรมที่ออกแบบเพื่อตอบโจทย์ในช่วงนี้ยังคงขยายตัว เนื่องจากเทคโนโลยีมีบทบาทในการตลาดออนไลน์ ทำให้เกิดการทำ Dropship การทำโฆษณา การสร้างช่องทางการซื้อขาย และการเรียนการสอนตามการอัปเดตของ Social Network ที่เป็นตัวแปรต่อการทำการตลาดออนไลน์ แทบทุกสำนักต่างๆ เลยก็ว่าได้ที่ขยายการอบรมด้านการตลาดที่นำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายระหว่าง Educator กับ Customers
- การแข่งขันกันด้าน SEO เนื่องด้วยถ้าเราจะจัดคอร์สอบรมอะไรก็ตาม เราต้องทำให้ติด SEO เพื่อให้ได้ในการค้นหาอันดับแรก แต่ในขณะเดียวกันการที่จะทำให้ติดอันดับค้นหาแรกๆ ต้องแข่งขันทางด้าน Content มากพอสมควรที่จะเป็นจุดเด่นต่อการค้นหาอันดับแรกได้ การนำเทคโนโลยีมาใช้ใน Search Engine จึงเป็นสิ่งที่แข่งขันกันต่อเนื่องเพื่อผลพลอยได้ทางรายได้และจำนวนผู้เข้าชม
ติดตามข่าวสาร ข้อมูลด้านการศึกษา ที่เราได้นำมาให้คุณถึงที่ในเว็บไซต์นี้
สิ่งที่ควรรู้ก่อนให้ลูก สอบเข้าป.1สาธิตจุฬา
ในการเตรียสอบเข้า ป.1 นั้น ไม่ว่าจะโรงเรียนไหนก็ตาม พ่อแม่อย่างเราก็ต้องศึกษาข้อมูลให้ดีเสียก่อน ว่าโรงเรียนนั้นเขาเน้นและสอบในเรื่องของอะไร เพราะว่าเราจะได้มาเตรียมความพร้อมให้ลูกของเราก่อน เพื่อที่จะได้ไม่ประมาทใน สนามสอบ นั้นเอง อย่างการ สอบเข้าป.1สาธิตจุฬา ซึ่งโรงเรียนนี้เขาก็จะแน่นให้เรื่องของเชาว์ปัญญาเป็นหลัก โดยข้อสอบส่วนใหญ่ ของโรงเรียนสาธิตจุฬามักจะเป็นแนวนี้เกือบจะทั้งหมดเลย
สอบเข้าป.1สาธิตจุฬา ที่ต้องมีทักษะการฟังที่ดี
และอีกอย่างหนึ่งที่พ่อแม่อย่างเราควรรู้ในการ สอบเข้าป.1สาธิตจุฬา นั้น เด็ก ๆ ก็ต้องมีทักษะการฟังที่ดีด้วย เพราะถ้าหากทักษะการฟังไม่ดีพอ ก็อาจจะทำให้ในการลงสนามสอบนั้นมีปัญหาอย่างแน่นอน เพราะสนามสอบนี้ส่วนใหญ่ ครูจะเป็นผู้อ่านโจทย์ให้เด็กฟัง ซึ่งในกระดาษคำตอบของเด็กนั้นจะมีเพียง ตัวเลือกของคำตอบเท่านั้น และไม่มีคำถามในใบข้อสอบเลย ถึงแม้ว่าจะอ่านหนังสือออกก็ตาม แต่ถ้าฟังไม่ดีก็ไม่สามารถที่จะทำข้อสอบนี้ได้เลย
โดยเด็ก ๆ ที่จะไปสอบเข้าโรงเรียนนี้ ก็ต้องเตรียมตัวกันตั้งแต่เนิ่น ๆ เลย เพราะหากไม่มีพื้นฐานของด้านเชาว์ปัญญาเลย และทักษะในด้านต่าง ๆ นั้น กับการที่จะไป สอบเข้าป.1สาธิตจุฬา ว่าเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับเด็ก และอาจจะทำให้พวกเขาเครียดและเกิดความกังวลได้ในขณะสอบนั่งเอง ซึ่งจะต่างกับเด็กที่มีการเรียนเสริมพวกนี้มา เพราะเด็กเหล่านี้มักจะไม่ค่อยตื่นสนามและจะชินกับการทำข้อสอบ ทำให้เปอร์เซ็นในการ สอบเข้าป.1สาธิตจุฬา มีมากกว่า
ซึ่งพวกทักษะเหล่านี้ก็ควรที่จะได้รับการฝึกฝนตั้งแต่อายุยังน้อย โดยเริ่มจากฟังก่อนเลย เพื่อให้เด็กได้เกิดความเคยชิน เพราะเมื่อเวลาที่ไปลงสนามสอบจริง ๆ เขาจะได้ไม่ประมาทมากจนเกินไป และสามารถที่จะจับใจความสำคัญในเรื่องราวต่าง ๆ ที่ครูผู้คุมสอบเป็นคนอ่านให้ฟังนั้นเอง
ติดตามข่าวสาร เว็บไซต์การศึกษา ที่เราได้นำมาให้คุณรู้เรื่องการศึกษาอย่างรอบด้าน
โรงเรียนในนิวยอร์ก ซิตี้ เตรียมปิดอีกครั้งเนื่องจากโคโรนาไวรัส
ระบบโรงเรียนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเป็นเรื่องราวความสำเร็จอีกครั้ง แต่อัตราการติดเชื้อไวรัสโคโรนาทั่วเมืองอาจบังคับให้ปิด โดย โรงเรียนในเมืองนิวยอร์ก พร้อมที่จะปิดการเรียนรู้ด้วยตนเองเนื่องจากอัตราการติดเชื้อโคโรนาไวรัสในเมืองและทั่วประเทศพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง
ด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งและเพื่อให้ชุมชนของเราปลอดภัยผมขอให้ทุกโรงเรียนเตรียมพร้อมสำหรับช่วงเวลาสั้น ๆ ของการเรียนรู้จากระยะไกลทั้งระบบ” ริชาร์ดส์ คาร์รันซ่า อธิการบดีของ นิว ยอร์ก ซิตี้ สคูล เขียนส่งอีเมลถึงผู้บริหารในเย็นวันพฤหัส
โรงเรียนในนิวยอร์ก ซิตี้ ที่ต้องเปลี่ยนแปลงและเตรียมพร้อมทุกสถานการณ์
แม้ว่าจะไม่มีการตัดสินใจใด ๆ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทั้งระบบไปสู่การเรียนรู้จากระยะไกลอย่างที่ผู้นำโรงเรียนที่ยิ่งใหญ่ทุกคนรู้เราก็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์อีเมลจะกำกับผู้บริหารเพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์การเรียนรู้เช่นแท็บเล็ตพร้อมสำหรับการแจกจ่ายและนักเรียนรู้รหัสผ่านเพื่อเข้าถึงแอปต่างๆ
การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่ออัตราการมองโลกในแง่บวกเฉลี่ย 7 วันของเมืองแตะ 2.6% ในวันพฤหัสบดี ภายใต้ข้อตกลงในการเปิดใหม่ของนายกเทศมนตรี บิล เด บลาซิโอ กับครูและสหภาพแรงงานของเมืองโรงเรียนต่างๆจะต้องปิดการเรียนรู้ด้วยตนเองหากค่าเฉลี่ยนั้นสูงถึง 3%
การปิด โรงเรียนในนิวยอร์ก ระบบโรงเรียนที่ใหญ่ที่สุดของประเทศซึ่งให้บริการนักเรียนมากกว่า 1 ล้านคนจะเป็นการระเบิดครั้งใหญ่ที่กลายเป็นหนึ่งในเรื่องราวความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและเป็นหนึ่งในเรื่องราวความสำเร็จเพียงหนึ่งเดียวในบรรดาโรงเรียนในเมืองใหญ่ที่ต่อสู้เพื่อเปิดโรงเรียนใหม่อย่างปลอดภัย การเรียนการสอนด้วยตนเองท่ามกลางการแพร่ระบาดที่ไม่หยุดยั้ง
เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมานายกเทศมนตรีกล่าวว่าหากประชาชนในนครนิวยอร์กสวมหน้ากากห่างไกลทางสังคมและปฏิบัติตามระเบียบการด้านสาธารณสุขอื่น ๆ ก็มีโรงเรียนที่มีโอกาสอยู่ภายนอกสามารถเปิดได้
เขากล่าวว่า ยังมีโอกาสที่จะทำบางอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งนั้นและเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ทุกคนจะทำในสิ่งที่เราเรียกร้องให้พวกเขาทำเพื่อช่วยปกป้องโรงเรียนของเรา แต่ส่วนมากมองว่าการปิด โรงเรียนในนิวยอร์ก จะช่วยให้อัตราความเป็นบวกโดยเฉลี่ยของโรงเรียนในเมืองจะน้อยกว่า 0.2% จากการทดสอบล่าสุด 112,000 ครั้งที่จัดทำในหมู่นักเรียนและครู
นายกเทศมนตรีได้รับคำวิจารณ์เกี่ยวกับเกณฑ์อัตราความคิดบวกเชิงอนุรักษ์นิยมของเมืองที่ 3% โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีหลักฐานบ่งชี้ว่าอัตราการติดเชื้อในโรงเรียนไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างที่พวกเขาอยู่ทั่วเมือง
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคและองค์การอนามัยโลกแนะนำให้ปิด โรงเรียนในนิวยอร์ก หากอัตราความเป็นบวกสูงกว่า 5% แต่ขาดคำแนะนำที่ชัดเจนในระดับรัฐบาลกลางรัฐและเขตการศึกษาจึงกำหนดมาตรฐานของตนเอง – บางแห่งสะดวกสบายในการอนุญาตให้มีอัตราความเป็นบวก ขึ้นไป 20% รัฐนิวยอร์กกำหนดเกณฑ์สำหรับการปิดโดยใช้อัตราบวก 9% แต่นครนิวยอร์กใช้เกณฑ์ที่ต่ำกว่าของตัวเอง
ติดตามข่าวสาร ข้อมูลด้านการศึกษา ที่เราได้นำมาให้คุณถึงที่ในเว็บไซต์นี้
การอ่านหนังสือ ช่วยให้มีประสบการณ์เพิ่มขึ้นมากมาย
ถ้าพูดถึงเรื่อง การอ่านหนังสือ หลายคนก็คงจะส่ายหน้า เพราะเนื่องจากแค่ยินคำว่าอ่านหนังสือก็รู้สึกง่วงแล้ว จะให้ไปอ่านหนังสือนาน ๆ ก็คงจะไม่ได้ ผู้เขียนไม่ได้หมายถึงหนังสือเรียน หรือหนังสืออะไรก็ได้ที่คิดว่าตัวเองอ่านแล้วจะชอบอะลองหยิบมาอ่านดูสักเล่มนึงก็ได้นะ
เพราะในหนังสือมีอะไรเยอะแยะที่เรายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ามันจะมีอยู่บนโลกใบนี้บางครั้งเพียงแค่เราอ่านนิยายบางเรื่องอาจจะทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปเยอะมากเลยทีเดียว
การอ่านหนังสือ ได้ความรู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้และช่วยสร้างรอยยิ้มให้กับเรา
การอ่านหนังสือ นั้น โดยในหนังสือที่เราเริ่มอ่านไปมีบทความมากมายที่เขียนอยู่ในหนังสือทางประสบการณ์ของผู้เขียนเองนะหรือประสบการณ์จากคนที่เล่าให้ผู้เขียนหนังสือฟังหลายครั้งก็ถูกบรรจุอยู่ในหนังสือ แต่นั่นแหละ ถือเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ผู้อ่านไม่เคยเจอหรืออาจจะเคยพบเจอจนบางครั้งรู้สึกว่านี่เรามีคนพบประสบการณ์แบบเดียวกับเราด้วยหรอเลยทีเดียว
ผู้เขียนบทความเป็นคนหนึ่งที่เริ่มหันมา อ่านหนังสือ และได้อะไรจากหนังสือมามากด้วยเช่นเดียวกันหนังสือบางเล่มทำให้ผู้เขียนบทความนึกถึงตัวเองในอดีตหนังสือบางเล่มทำให้เราได้ตระหนักคิดถึงอะไรบางสิ่งบางอย่าง โดย การอ่านหนังสือ บางเล่มก็สร้างรอยยิ้มให้กับเรา หนังสือบางเล่มก็ทำให้เรารู้สึกอยากออกไปทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบทำ
เห็นไหม การอ่านหนังสือ ให้อะไรหลายอย่างมากนอกจากความรู้ทางวิชาการแล้วประสบการณ์ชีวิตก็ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ควรมีในการดำเนินชีวิต ไม่แน่ประสบการณ์จาก การอ่านหนังสือ อาจจะทำให้เราแก้ปัญหาชีวิตได้ง่ายขึ้นมากก็ได้นะ
ไม่จำเป็นต้อง อ่านหนังสือ วันละเล่มแค่อ่านวันละบทก็พอแล้วแต่ถ้าคนไม่มีเวลายุคนี้เป็นยุคดิจิตอลเรามีหนังสือเสียงให้คุณได้หาอ่านกันรวมถึงเว็บไซต์ต่างๆนานาที่จะทำให้เราได้ประสบการณ์ชีวิตมากกว่า การอ่านหนังสือ เพิ่มขึ้นแน่นอนที่แนะนำเลยสำหรับหนังสือเสียงก็จะมี The Standard Mission To the Moon Roundfinger และอื่นๆอีกมากมายสำหรับคนไม่มีเวลาก็ไปลองฟังได้นะ หวังว่าจะได้อะไรจากการฟังหรือการอ่านหนังสือกันมาเยอะๆนะ
ติดตามข่าวสาร เว็บไซต์การศึกษา ที่เราได้นำมาให้คุณรู้เรื่องการศึกษาอย่างรอบด้าน
โรงเรียนนานาชาติ เลือกอย่างไรให้เหมาะกับลูกของเรา
ก่อนอื่น ต้องมาถามตัวเองก่อนว่าทำไมถึงอยากให้ลูกเรียน โรงเรียนนานาชาติซึ่งคำตอบได้รับไม่พ้นเหตุผล 3 ข้อนี้ อย่างแรกอยากให้ลูกเก่งภาษา ข้อสองอยากให้ลูกมีโอกาสทางการศึกษาด้านวิชาการที่ดี ข้อสาม อยากให้ลูกได้อยู่ในสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ดี เหตุผลทั้ง 3 ข้อนี่แหละที่ทำให้พ่อแม่ที่มีฐานะทางการเงิน ยอมควักกระเป๋าจ่ายเงินค่าเทอมหลักแสนอย่างไม่เสียดาย
ปัจจุบัน โรงเรียนนานาชาติ กระจายตัวไปทั่วประเทศไม่น้อยกว่า 99 โรงเรียน เมื่อจำนวน โรงเรียนนานาชาติ มีให้เลือกมากมาย แล้วจะมีหลักการเลือก อย่างไร? พิจารณาตามนี้ได้เลย
โรงเรียนนานาชาติ ผู้ปกครองต้องมีทักษะด้านภาษาอังกฤษ
โรงเรียนนานาชาติ สิ่งสำคัญประการแรก ก็คือ เลือกโรงเรียนที่สะดวกในการเดินทางที่สุด เรื่องนี้สำคัญที่ต้องชั่งน้ำหนักอย่างแรก การตื่นเข้ามากเพื่อเดินทางไกลๆ ทำให้เด็กสมองไม่ปลอดโปร่งสดใส และพร้อมจะเรียน
โรงเรียนนานาชาติ สิ่งสำคัญประการที่สอง ก็คือ เลือกระบบการเรียนการสอนและสิ่งแวดล้อมของโรงเรียน ทั้งหนังสือเรียน วิชาเรียน ชั่วโมงการเรียน การให้การบ้าน การสอบวัดผล สภาพแวดล้อมของโรงเรียน
ทั้งหมดนี้ พ่อแม่ผู้ปกครองต้องเข้าไปพูดคุยกับครูถึงหลักการต่างๆ ที่กล่าวไป เพื่อดูว่าบุตรหลาน เห็นด้วยกับระบบการเรียนการสอนของทาง โรงเรียนนานาชาติ ไหม? ไปสัมผัสและสังเกตการณ์ในสิ่งแวดล้อมของโรงเรียนด้วยตนเอง
การเข้าไป สังเกตการณ์ OPEN HOUSE ของ โรงเรียนนานาชาติ คงไม่พอ พ่อแม่ผู้ปกครองอาจต้องเข้าไปสังเกตสีหน้าท่าทางของนักเรียนในโรงเรียนที่ได้พบเจอด้วยว่า เขาเหล่านั้นฉายแววความสุขในการอยู่ในรั้วโรงเรียนแห่งนั้นหรือเปล่า?
โรงเรียนนานาชาติ สิ่งสำคัญประการที่สาม ก็คือ เลือกราคาค่าเล่าเรียน เมื่อคุณเข้าไปลงทะเบียนติดต่อในโรงเรียนนานาชาติแต่ละแห่งคุณจะได้รับโบชัวร์ของโรงเรียนที่มีตารางแสดงค่าเทอมในแต่ละดับชั้นอย่างละเอียด แต่ถ้าคุณอยากจะรู้ราคาค่าเล่าเรียนของโรงเรียนนานาชาติทั้งหมด ก็สามารถเข้าไปค้นหาข้อมูลจากกูเกิ้ลได้ง่ายๆ
- แต่มีสิ่งที่พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง ต้องทำความเข้าใจและต้องเตรียมพร้อม
เมื่อตัดสินใจส่งลูกเข้า โรงเรียนนานาชาติ สิ่งที่ต้องรู้ก็คือ คุณไม่ได้มีหน้าที่แค่จ่ายค่าเล่าเรียน หรือทำหน้าที่รับ-ส่งลูกไปโรงเรียนเท่านั้น แต่คุณต้องมีเวลา สำหรับช่วยดูแลเรื่องการบ้านของบุตรหลาน
ซึ่งประเด็นก็คือพ่อแม่ผู้ปกครองต้องมีทักษะด้านภาษาอังกฤษที่สามารถสื่อสารได้เข้าใจได้ เพื่อที่จะสื่อสารกับโรงเรียน และให้คำปรึกษาเรื่องการบ้านของบุตรหลานได้
ถ้าหากพ่อแม่ผู้ปกครองไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ลูกหลานจะไม่ปรึกษาคุณ เพราะคุณไม่เข้าใจ แต่เขาก็เลือกที่จะไปสื่อสารกับเพื่อนหรือกับครูในโรงเรียนมากกว่า จนทำให้เกิดช่องว่างระหว่างเด็กกับพ่อแม่ ผู้ปกครอง อีกทั้งคุณจะไม่สามารถรับรู้พัฒนาการหรือเรื่องราวต่างๆของลูกในรั้ว โรงเรียนนานาชาติ ได้ด้วยตนเอง เพราะไม่เข้าใจผลการประเมิน หรือข่าวสารจากโรงเรียนที่ส่งมาเป็นภาษาอังกฤษ
เรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่ควรเอาใจใส่ ใช่แต่เพียงว่ามีเงินแล้วส่งลูกเข้าเรียนโรงเรียนนานาชาติ เพียงอย่างเดียว สิ่งนี้ควรรู้เอาไว้เพื่อวางแผนรับมือกับปัญหาเล็กๆแต่จะขยายใหญ่ในอนาคตด้วย ขอให้โชคดีกับการเลือกโรงเรียนที่ดีสำหรับบุตรหลาน
ติดตามข่าวสาร ข้อมูลการเรียน ที่เราได้นำมาให้คุณถึงที่ในเว็บไซต์นี้
การศึกษาไทย มุมมองในปัจจุบันเป็นอย่างไร
ถ้าคุณมีบุตรหลานที่อยู่ในวัยเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาลเป็นต้นไป และถ้าคุณมีโอกาสไปเยี่ยมเด็กๆในโรงเรียนแถบต่างจังหวัดที่ห่างไกลความเจริญ คุณจะมีมุมมอง การศึกษาไทย อย่างไร
เมื่อได้มีโอกาสไปเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กที่โรงเรียนยากจนแห่งหนึ่ง เราเหมาข้าวมันไก่ถาดใหญ่ไปฝากเด็กๆ พวกเค้ารับประทานอย่างเอร็ดอร่อย เราชื่นใจ แต่พวกเราได้เห็นรูโหว่ของระบบ การศึกษาไทย ที่มีความเหลื่อมล้ำต่ำสูงในประเทศของเราอย่างแรง
การศึกษาไทย ควรเปิดโอกาสและพัฒนาระบบการศึกษาให้เท่าเทียมกัน
การศึกษาไทย มีคุณภาพเป็นกระจุก ไม่กระจายไปทั่วประเทศ ครอบครัวที่มีเงินจึงจะมีโอกาสให้การศึกษาที่ดีแก่บุตรหลาน ส่วนเด็กไทยที่ด้อยโอกาส ทางการศึกษามีอยู่ทั่วประเทศ พวกเค้าเรียนฟรีไม่ต้องเสียค่าเทอมจนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แต่ทำไม การศึกษาไทย ไม่ได้อะไรกับเขาติดตัวมามันไม่ได้มีอะไรผิดปกติกับ การศึกษาไทย แต่เพราะเป็นมาแบบนี้ช้านานแล้ว
คนที่มีรายได้น้อยไม่มีทางเลือกให้บุตรหลาน ก็หาโรงเรียนใกล้บ้านใกล้ให้ได้เข้าเรียนเหมือนคนอื่นๆ พ่อแม่ไม่ผิด เด็กไม่ผิด แต่ผิดที่ผู้ดูแลการศึกษาที่ไม่เคยคิดแก้ปัญหาความเท่าเทียมทาง การศึกษาไทย
ไม่พัฒนาโรงเรียนของรัฐบาลให้มีคุณภาพเท่ากับโรงเรียนเอกชน เพื่อเด็กๆจะได้มีโอกาสทางการศึกษาเท่าเทียมกัน ปรับปรุงพัฒนา แม่พิมพ์พ่อพิมพ์ของชาติให้ได้มาตรฐาน เพราะถ้าพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ของชาติไม่มีความสามารถป้อนสิ่งดีๆให้กับลูกศิษย์ แล้วจะให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่มีคุณภาพและช่วยพัฒนาประเทศได้อย่างไร?
ครู บุคคลที่สำคัญที่สุดของการศึกษาไทย
บุคคลที่สำคัญที่สุดทาง การศึกษาไทย โดยเฉพาะครูที่อยู่ในโรงเรียนพื้นที่ด้อยโอกาส แถมบางโรงเรียนโรงเรียนยังมีแต่ครูอัตราจ้าง ครูอาสา ไม่มีครูที่จบครูมาสายตรง น่าเห็นใจครูซึ่งมีเงินเดือนๆ น้อย แถมอัตราส่วนระหว่างครู 1 คนต่อจำนวนนักเรียนก็ไม่สมดุล มิหนำซ้ำบางโรงเรียน ห้องหนึ่งมีเด็กทุกระดับชั้นผสมกัน แล้วจะให้คนเป็นครูสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างไรกัน
เส้นทางของการสร้างครูอีก ถ้าเปิดใจกว้างๆ ลองตอบตรงๆ ตามความเป็นจริงว่า นักเรียนที่จบ ม.6 แล้วสอบเข้ามหาวิทยาลัยของประเทศไม่ติด โดยเฉพาะเด็กต่างจังหวัด ที่แรกที่เขาจะไปสอบเรียนต่อคือที่ไหน ก่อนจะไปมหาวิทยาลัยเปิด รามคำแหง หรือ มหาวิทยาลัยสุโขทัย คำตอบคือ มหาวิทยาลัยราชภัฎ มหาวิทยาลัยที่ผลิตครูสู่สังคมการศึกษา ใช่ไหม ?
แล้วผู้เกี่ยวข้องทาง การศึกษาไทย เคยสนับสนุน ให้โอกาสแก่สถาบันราชภัฏเหล่านี้ให้มีคุณภาพเท่าเทียมกับมหาวิทยาลัยใหญ่ๆของประเทศแค่ไหน ? ว่าที่ครูที่จะจบออกมาเป็นแม่พิมพ์ พ่อพิมพ์ มีโอกาสได้รับ การศึกษาไทย ที่มีคุณภาพแค่ไหน ?
แต่ที่เห็นคือ ระบบเดิมๆไม่เคยเปลี่ยน จึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมประเทศเราถึงไม่ค่อยพัฒนา บ่อยครั้งที่ผู้ใหญ่ถูกเด็กๆถามว่า “ ทำไมหนูต้องเรียนวิชานี้ โตขึ้นจะเอาไปใช้อะไรได้บ้าง” แล้วคุณๆจะตอบยังไง ?
บทความนี้ คงตอบแทนพ่อแม่ทุกคนในประเด็นที่ว่า ทำไมต้องไปจ่ายเงินแพงๆให้ลูกไปเรียนโรงเรียนทางเลือก คำตอบง่ายๆที่สะท้อน การศึกษาไทย ได้เป็นอย่างดีคือ เพราะอยากให้ลูกได้รับการศึกษาที่ดี
ติดตามข่าวสาร เว็บไซต์การศึกษา ที่เราได้นำมาให้คุณรู้เรื่องการศึกษาอย่างรอบด้าน
ข่าวการศึกษาไทย ข้อมูลการเรียน การศึกษาต่อ กศน ปวช ปวส ปตรี ล่าสุด เว็บไซต์ข่าวการศึกษาไทย
ข่าวการศึกษาไทย ข้อมูลการเรียน ข้อมูลด้านการเรียน เรื่องราวเกี่ยวกับการสอบ การศึกษาในระบบโรงเรียน และการศึกษาในมหาวิทยาลัยต่างๆ ข้อมูลปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของการศึกษา การจัดการเรียนการสอน และปัญหาในแวววงการศึกษาไทย รวมทั้งการจัดการเรียนการสอน
ข่าวการศึกษาไทย ข้อมูลการเรียน ในรูปแบต่างๆ arab-games ได้นำเรื่องราวเกี่ยวกับแนวโน้มของการศึกษา
ข่าวการศึกษาไทย และปัญหาของนักเรียนทั้งในด้านที่ส่งผลดีและผลเสียที่ทำให้สังคมไทยยังต้องมีการปรับปรุงระบบการศึกษาไทยให้ก้าวทันต่อสังคมในยุคปัจจุบัน ข่าวการศึกษาไทย และเรายังรวบรวมข่าวด้านการศึกษาต่อทั้งในประเทศและต่างประเทศ ข้อมูลทุนการศึกษาต่างๆ เพียงแค่คุณเข้ามาที่ ข่าวการศึกษาไทย คุณจะทราบข่าวสารด้านการศึกษาอย่างแน่นอน
