ในยุคนี้การพูดได้เพียงแค่ภาษาบ้านเกิดเพียงภาษาเดียวนั้น จะทำให้เราเสียเปรียบและพลาดโอกาสหลายอย่างในชีวิตไป เด็กรุ่นใหม่จึงนิยม เรียนภาษา ให้หลากหลาย การสื่อสารได้ 4-5 ภาษาเลยแทบจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว สำหรับคนที่ยังไม่ได้เริ่มต้น ตอนนี้ก็ยังไม่สายเกินไป และเรายังสามารถเร่งความเร็วให้ทันคนอื่น ด้วยการฝึกหลายๆ ภาษาพร้อมกันได้อีกด้วย แค่ต้องใช้เทคนิคที่เรานำมาฝากกันในครั้งนี้ช่วย ข่าวการศึกษาไทย
เลือก เรียนภาษา ที่มีความใกล้เคียงกันก่อน
กรณีที่เราสนใจหลายภาษาแต่มันไม่สอดคล้องหรือไม่ใกล้เคียงกันเลยก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเรียนภาษาที่คล้ายคลึงกันก่อนได้ก็จะดีมาก เพื่อให้บางส่วนที่เราได้เรียนรู้จากภาษาหนึ่ง นำไปใช้กับอีกภาษาหนึ่งได้ อย่างเช่น การเรียนภาษาอังกฤษ ที่ตัวอักษรทั้งหมดเป็นพื้นฐานของภาษาเยอรมัน อิตาลี และฝรั่งเศส เราก็จับคู่ภาษาเหล่านี้เรียนด้วยกันได้เลย หรืออย่างภาษาจีนที่มีบางส่วนคล้ายกับภาษาญี่ปุ่นและเกาหลี เราก็จับกลุ่มนี้เรียนร่วมกันได้เหมือนกัน

จัดตารางเรียนภาษาไม่ให้ติดกันยาวนาน
เป้าหมายของเราคือการเรียนรู้ให้ได้หลายภาษาในคราวเดียวก็จริง แต่การเรียนภาษาก็ต้องไม่สร้างความรู้สึกหนักหนาจนเกินไป ไม่อย่างนั้นเราจะท้อถอยและเบื่อหน่ายการฝึกฝนในวันใดวันหนึ่ง ให้จัดตารางการเรียนในแต่ละวัน เต็มที่คือ 3 ภาษา ภาษาละ 1-2 ชั่วโมงแล้วแต่ความสะดวกของเรา แล้ววางช่วงเวลาเรียนให้แยกห่างจากกันโดยมีกิจกรรมอื่นคั่นไว้ เช่น เรียนภาษาจีนในตอนเช้า เรียนอังกฤษในตอนเที่ยง และเรียนเยอรมันในตอนเย็น หากเราเรียนมากกว่า 3 ภาษาก็ให้จัดตารางใส่ในวันอื่น

เริ่มเรียนภาษาจากการฟังและพูดก่อนเสมอ
ไม่ว่าภาษาที่เลือกจะเป็นภาษาอะไรก็ตาม ธรรมชาติของทุกภาษามีหัวใจอยู่ที่การพูดและการฟังเสมอ เพื่อให้การเรียนภาษาราบรื่นยิ่งขึ้น จึงต้องเริ่มต้นด้วยการฝึกฟังและพูด ช่วงแรกยังจำไวยากรณ์อะไรไม่ได้เลยก็ไม่เป็นปัญหา หลังจากได้ฟังและพูดบ่อยๆ เดี๋ยวมันก็จะพัฒนาด้านอื่นไปเองโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้เราสามารถเร่งผลลัพธ์ด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับภาษานั้นได้ด้วย เช่น การดูหนัง ฟังเพลง เป็นต้น
- วิธีเรียนให้เก่ง ความจำดี กับ 5 ขั้นตอนแบบง่าย ๆ ทำอย่างไรได้บ้าง
- เรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง กับเทคนิคการ ฟรี ๆ แต่ได้ผลจริงสุด
- อุปกรณ์การเรียนน่ารัก เป็นหนึ่งในไอเทมสำคัญที่ช่วยเพิ่มสีสันของการเรียน 
- ไอแพดเพื่อการศึกษา เป็นหนึ่งอุปกรณ์เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้น
- เรียน ยัง ไง ให้ได้ A เป็นความรู้สึกที่น้องใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัยมองว่ายาก